forex เล่นยังไง 5 ข้อสำคัญที่นักเทรดต้องรู้

Forex เล่นยังไง ? 5 ข้อสำคัญที่นักเทรดต้องรู้

อัปเดตล่าสุด:
post view Post views: 1,891

ปัจจุบันนี้ ตลาด Forex หรือตลาดซื้อขายค่าเงินต่างประเทศ ยังคงดูใหม่อยู่ เพราะยังมีนักลงทุนหลายๆท่านเกิดความสนใจ  เทรด forex แล้วสอบถามเข้ามาทางแฟนเพจของเฟสบุ๊ค Forexinthai ว่า การเทรดฟอเร็กซ์ มันคืออะไรรึ? ทำไม่ในโลกโซเชียล ! เจอบ่อยจริงๆ ?

เอาล่ะ.. สำหรับท่านที่รู้จักดีและเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ก็ผ่าน ๆ บทความนี้ไปก่อนนะครับ เอาเป็นว่าจะขอ รีเพลย์ เรียบเรียงใหม่ เอาง่ายๆ สั้นๆ กระทัดรัด แบบที่เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อใครที่เพิ่งมาใหม่ มือใหม่ (แกะกล่อง) จะได้ลองศึกษาดูว่า มันเป็นยังงัย มีข้อดีข้อเสียอย่างไร น่าเล่น(ลงทุน)ไหม และก็อยากให้มองว่าเป็นการเล่าสู่กันฟัง ในลักษณะของอีกช่องทางการลงทุน ที่คนส่วนใหญ่ในบ้านเราไม่ค่อยรู้จักกัน

1. Forex เล่นยังไง เทรด Forex คืออะไร

ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจคำว่าเทรด (Trade) ซึ่งตามภาษาอังกฤษก็หมายถึงการซื้อขายนั่นเอง ในส่วนของคำว่า Forex ก็คือคำย่อที่มาจาก  Foreign Exchange Market หมายถึง ตลาดซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งสกุลเงินหลักๆที่นิยมซื้อขายกันคือ USD,EUR,GBP,JPY,CAD,CHF,AUD,NZD,CNH แนะนำให้อ่าน สกุลเงินหลักต่างๆ

forex เล่นยังไง เทรด forex คืออะไร

ฉะนั้นเมื่อนำสองคำมารวมกัน  “เทรด forex”  ก็คือ การซื้อ-ขาย(สกุลเงินต่างๆ) ในตลาดซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั่นเอง

2. ตลาด Forex เป็นยังไง

ตลาดซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex เป็นแหล่งลงทุนที่สามารถทำการซื้อ-ขาย (เทรด) ผ่านเครือข่ายสัญญาณอีเลคทรอนิคส์ (Interbank) ที่เชื่อมต่อกับทุกๆ ธนาคารทั่วโลก ไม่มีศูนย์กลาง หรือสำนักงานใหญ่โดยตรงเหมือนตลาดหุ้น ตลาดจัด อยู่ในประเภท  OTC ซึ่งย่อมาจาก Over The Counter  เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์ – ศุกร์ (แต่มีคู่หนึ่งที่พิเศษกว่าเพื่อนคือ BTCUSD สามารถเทรดทุกวันเพราะเปิดตลอดไม่มีวันปิด)

แหล่งรวมตลาดฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ ๆ สำคัญๆ มีอยู่ 3 แห่งคือ ตลาดนิวยอร์ก, ตลาดลอนดอน, และตลาดโตเกียวตามลำดับ ฟอเร็กซ์เป็นตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีมูลค่าการซื้อ-ขาย  5ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อวันทีเลยทีเดียว  และเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของนิวยอร์ค (Newyork Stock Exchange) ซึ่งมูลค่าซื่อขายในแต่ล่ะวันมีเพียง สองหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น และหากคำนวณแล้วตลาด ฟอเร็กซ์ก็ใหญ่กว่าตลาดหุ้นและตลาด TFEX (ทีเฟก) หรือ Futueres (ฟิวเจอร์) ร่วมกัน มากกว่า 3 เท่า

3. รูปแบบการลงทุนเป็นอย่างไร

การเทรดฟอเร็กซ์ หรือการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เรียกสั้นๆ ก็คือการเก็งกำไรค่าเงินนั่นเอง รูปแบบการซื้อ-ขายหรือการเทรดค่าเงินนั้น ก็ดูไม่ยาก แนะนำให้อ่านฟอเร็กซ์ทำเงินได้อย่างไร เพราะผลิตภัณฑ์หรือสกุลเงินที่เปิดให้ทำการซื้อขายนั้น จะเทียบกันอยู่เป็นคู่ๆ (Currency Pair) กำไรหรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับส่วนต่างของค่าสกุลเงินที่กำลัง Matching กันอยู่ ณ ขณะนั้น ปกติโดยส่วนใหญ่ในแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เราสามารถซื้อขายผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ด้วย อย่างเช่น เราสามารถเทรด โลหะ พลังงาน ดัชนี หรือตราสารต่างๆ ฯล ตามที่โบรคเกอร์ชัพพอร์ต

4. ตลาดฟอเร็กซ์ เปิด ปิด เวลาไหน

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดตลอด 24 ช.ม.ในวันจันทร์-ศุกร์ แล้วหยุดวันเสาร์-อาทิตย์  ยกเว้น สกุลเงินดิจิตอล Bitcoin (BTCUSD) ที่สามารถซื้อขายวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ได้

สำหรับช่วงเวลาเปิด-ปิด เมื่อเทียบกับเวลาบ้านเรา(เมืองไทย) จะได้ดังนี้ครับ

ตลาดฟอเร็กซ์ เปิด ปิด เวลาไหน

เวลาเปิด/ปิดทำการของตลาด

  • ตลาดออสเตรเลีย (AUD) เวลา 5:00 – 13:00 น.
  • ตลาดญี่ปุ่น (JPY) เวลา 7:00 – 14:00 น.
  • ตลาดยุโรป (EUR) เวลา 13:00 – 21:00 น.
  • ตลาดสวิส (CHF) เวลา 13:00 – 21:00 น.
  • ตลาดอังกฤษ (GBP) เวลา 14:00 – 22:00 น.
  • ตลาดอเมริกา (USD) เวลา 19.00 – 3:00 น.

(ในช่วงหน้าหนาวเวลาของเมืองไทยเวลาจะเร็วขึ้นอีกประมาณ 1 ชั่วโมง)

5. มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เมื่อมีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสียน้อ การเก็งกำไรค่าเงินหรือการเทรดฟอเร็กซ์ก็เช่นกัน มาดูกันว่า มันมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง?

ข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์ 

  • เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตลอด 24 ช.ม. ปิดเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำให้สามารถเทรดได้ทั้งวันทั้งคืนในช่วงเวลาทำการ แต่ยกเว้น สกุลเงินดิจิตอล Bitcoin (BTCUSD) สามารถซื้อขายได้ตลอด เพราะเสาร์-อาทิตย์ก็เปิด
  • ตลาดมีความเป็นอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของใคร ค่าสกุลเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค ซึ่งเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโลก
  • การเข้าถึงตลาดได้โดยง่าย สามารถเทรดออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เทรดได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยแพลตฟอร์ม MT4-5 ซึ่งส่วนใหญ่ชัพพอร์ตในทุกระบบปฏิบัติ ไม่ว่าใน PC, มือถือ/สมาร์ทโฟน, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต,ไอแพด,ไอโฟน ฯลฯ
  • โบรคเกอร์โดยส่วนมากชัพพอร์ตการฝากถอนฟรีค่าธรรมเนียม
  • สามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขาย  ผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ได้ทันที
  • เทรดแบบ Short-Selling ได้
  • การฝาก-ถอน (เติมเงินเข้าหรือถอนเงินออกจากพอล์ตลงทุน) สะดวก รวดเร็ว ได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านทางแบงก์กิ่งออนไลน์ บัตรเครดิต, E-currency ฯลฯ
  • มีระบบ Leverage ช่วยสร้างกำไรอย่างทวีคูณ
  • โบรคเกอร์ส่วนใหญ่เปิดโอกาสให้กับนักลุงทุนที่มีงบน้อย (ฝากเงินขั้นต่ำหลักร้อย)

ข้อเสียของการเทรดฟอเร็กซ์ คือ

  • การลงทุนมีความเสี่ยงสูง
  • ยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศไทย