เปรียบเทียบกองทุน forex ทั้ง 5 แหล่งทุน ftmo mff tft the5ers และ cti

เปรียบเทียบกองทุน forex ทั้ง 5 แหล่งทุน FTMO, MFF, TFT, The5ers และ CTI

อัปเดตล่าสุด:
post view Post views: 1,351

หลังจากที่คราวก่อนมาแนะนำไปแล้วว่า ‘สอบกองทุน forex ที่ไหนดี มีที่ไหนบ้าง’ แต่มีนักเทรด Forex มือสมัครเล่นและมืออาชีพทักมาขอคำปรึกษาให้ช่วยเลือกกองทุนที่ใช่ให้กับตัวเอง เพราะรักพี่เสียดายน้องตัดสินใจไม่ได้ซักที บทความนี้เราเลยขอมาเปรียบเทียบกองทุน Forex ทั้ง 5 แหล่งทุนยอดนิยม ได้แก่ FTMO, MFF, TFT, The5ers และ CTI ให้ทุกท่านเลือกได้ง่ายขึ้นกัน

 

เหตุผลที่ต้องเปรียบเทียบกองทุน forex

กองทุน Forex ที่เปิดโอกาสให้นักเทรดได้นำเงินทุนไปหมุนสร้างกำไรจาก Forex ในปัจจุบันมีมากมายหลายแหล่งมากขึ้น ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความแตกต่างกันพอสมควร จึงมีเหตุผลที่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกองทุน Forex ก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้

1) ความปลอดภัย : เพราะความเสี่ยงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการการเทรดเพียงอย่างเดียวว่า แต่ละออเดอร์จะกำไรหรือขาดทุน แต่นักเทรดอาชีพที่ใช้ทุนจากกองทุนต้องระวังความเสี่ยงจาก Firm ไม่มีมาตรฐาน และมีปัญหาในเรื่องของผลตอบแทนตามมาได้เหมือนกัน

2) ต้นทุนมีจำกัด : ไม่ใช่แค่เรื่องของต้นทุนจากค่าสมัคร งบที่เอาไปใช้ในการเทรด หรือแม้แต่เวลาทุกสิ่งล้วนเป็นต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด เมื่อต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อทุ่มเทให้เต็มที่และได้ผลลัพธ์ตามคาดหวังไว้ เลยจำเป็นต้องเปรียบเทียบกองทุน forex ก่อนเลือกให้คุ้มกับการจัดสรรต้นทุนให้คุ้มค่าสุด

3) เพิ่มโปรไฟล์และโอกาส : เพราะการเปรียบเทียบกองทุน Forex ก่อนเลือกร่วมเป็นนักเทรดก็เหมือนกับการสมัครเข้ากับองค์กร ยิ่งเลือกองค์กรที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงยิ่งเพิ่มประวัติการทำงานให้โปรไฟล์สวยน่าสนใจและสร้างโอกาสในเส้นทางอาชีพนักเทรดได้อีกไม่น้อยเลย

4) สั่งสมประสบการณ์และเพิ่มความสามารถแบบมืออาชีพ : ทุกการทดสอบของกองทุน Forex ที่เรานำมาเปรียบเทียบกองทุน Forex ทั้ง 5 ในบทความนี้ จะเห็นว่า มีความแตกต่างกัน ซึ่งการทดสอบไม่ได้แค่วัดความสามารถของคุณอย่างเดียว แต่ทุกระดับที่ทางกองทุนวางไว้จะเป็นแนวทางให้คุณสามารถสั่งสมประสบการณ์และเพิ่มความสามารถในระดับมืออาชีพได้อย่างเป็นขั้นตอนเหมือนการวางขั้นบันไดอย่างเป็นระเบียบให้ก้าวเดินถึงฝันได้ไม่มีสะดุด

 

เปรียบเทียบกองทุน forex ทั้ง 5 แหล่งทุน FTMO, MFF, TFT, The5ers และ CTI

หลังจากดูเหตุผลที่ควรเปรียบเทียบก่อนเลือกสอบกองทุน Forex ไหนดีแล้ว มาลองดูตัวอย่าง 5 แหล่งทุนยอดนิยมที่นักเทรดมืออาชีพทั่วโลกร่วมสนับสนุนกันว่า น่าสนใจอย่างไร

1) FTMO

ถ้าถามสอบกองทุน Forex ไหนดี คำตอบที่จะขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ เลยก็คือ การสอบกองทุน FTMO เพราะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มจัดสรรเงินลงทุนที่มีความสามารถ แต่ยังขาดเงินทุนในการสนับสนุน โดยลบข้อจำกัดที่ถูกขีดกรอบด้วยกฎหมายว่า ต้องสอบใบอนุญาตตามกฎหมายแต่ละประเทศ โดยให้สัดส่วนค่าคอมมิชชั่นแก่เทรดเดอร์สูงถึง 70% และเข้ากระเป๋านักลงทุนกว่า 30% และมีทีมร่วมสนับสนุนอย่างมืออาชีพ มีเงื่อนไขการเทรดที่ผู้สนใจควรทราบหลักๆ อยู่ 3 ข้อ ดังนี้

  • ในรอบ Challenge จะมีการทดสอบประมาณ 30 วัน เมื่อครบ 30 วันแล้วผู้เข้าร่วมการทดสอบกองทุน Forex จาก FTMO จะต้องสร้างผลกำไรให้ได้มากกว่า 10% ขึ้นไป (ขาดทุนไม่เกิน 5% ต่อวัน) ทั้งนี้สามารถขอเพิ่มได้อีก 14 วัน ถ้าในช่วงเทรดทำกำไรได้ 5% ขึ้นไป
  • ขั้นที่สองจะทดสอบกว่า 60 วัน ในตลอดระยะเวลาการเทรดกว่า 60 วัน จะต้องทำกำไรให้ได้ 5% ขึ้นไป

ถ้าสอบไม่ผ่าน เพราะทำกำไรได้ไม่ถึงตามที่กำหนดไว้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นขาดทุนสามารถสอบใหม่ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมัครเพิ่ม

ค่าสมัครสอบ : เริ่มต้นที่ €155 ไปจนถึงสูงสุด €1,080 (หากสอบผ่านทั้งสามจนได้เป็น FTMO Trader จะขอค่าสมัครคืนได้)

2)  MFF

MFF หรือ MyForexFunds เป็นอีกหนึ่งคำตอบยอดฮิตของคำถามสอบกองทุน Forex ไหนดี เพราะเงื่อนไขไม่ยุ่งยาก และมีโอกาสผ่านได้มากกว่าการสอบกองทุน Forex แห่งอื่น รวมถึงค่าสมัครสอบที่ถูกกว่าประมาณพันว่าบาทเลยทำให้มือใหม่หัดทดสอบกองทุน Forex เลยลองสนามกัน ณ ที่แห่งนี้ แต่น่าเสียดายที่เรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือก็ยังเป็นรองอยู่เช่นกัน ปัจจุบันมีการสอบ 3 แบบ คือ

  • Rapid : สำหรับมือใหม่มีเป้าหมายทดสอบการเทรดคงที่
  • Evaluation : สำหรับนักเทรดที่มีความเชี่ยวชาญและสั่งสมประสบการณ์มาระดับหนึ่ง เพราะการทดสอบจะมีการแบ่ง Phase ระยะการประเมินรอบแรกต้องทำให้ได้ 8% และรอบสอง 5%
  • Accelerated : สำหรับนักเทรด Forex มือฉมังขั้นเทพจะมีการขยับขั้นหรือขยายวงเงิน เมื่อไปถึงเป้า 10-20% โดยมีผลตอบแทนสูงล่อใจนักเทรดสุดๆ

ค่าสมัครสอบ : เริ่มต้นที่ $99 ไปจนถึงขั้นสูงสุด $2,450 (ถ้าเป็นการสอบแบบ Rapid และ Evaluation จะได้รับเงินคืนหากสอบผ่าน แต่ Accelerated จ่ายครั้งเดียวไม่คืน)

3)  TFT

หนึ่งในการสอบกองทุน Forex ไหนดี คงต้องยกให้ TFT หรือ The Funded Trader ที่มีการวางแผนเป้าอย่างเป็นระบบการสอบให้ทุนมาเทรด Forex ไม่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่จะมีจุดเด่นตรงที่ค่าธรรมเนียมการสอบยังถือว่า เป็นมิตรต่อนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการสอบชิงทุนและมีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับเทียบเท่าแหล่งทุนขนาดใหญ่ชื่อดังแห่งอื่น โดยได้รับการการันตีจาก Trustpilot องค์กรรีวิวแพลตฟอร์มทางการเงินที่น่าสนใจทั่วโลกว่ามีความน่าเชื่อถือสูง การสอบไม่กดดันมากสามารถขาดทุนได้สูงสุดถึง 12% ต่อวัน มีการสอบ 2 โปรแกรมหลัก ดังนี้

  • Standard Challenge : สำหรับมือใหม่ที่อยากได้ทุนมาเทรด Forex วงเงินสูงและรับค่าคอมมิชชั่นแบบจุกๆ มีการแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 Phase คือ รอบแรก 35 วัน และรอบสอง 60 วัน
  • Rapid Challenge : สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และมั่นใจว่า สามารถหากำไรให้เติบโตมากขึ้นได้ รูปแบบนี้จะรองรับนักเทรดมืออาชีพ เพราะนอกจากจะมีค่าคอมมิชชั่นเป็นเปอร์เซ็นต์ชัดเจนแล้วยังมีแผนปรับเพิ่มส่วนแบ่งตามเงื่อนไขด้วย

ค่าสมัครสอบ : ฝั่ง Standard เริ่มต้น $315 USD ฝั่ง Rapid เริ่มต้น $299 USD (มีการจัดโปรโมชั่นบ่อยควรรอสอบช่วงที่ราคาไม่สูงมาก)

4)  The5ers

เมื่อถามสอบกองทุน Forex ไหนดี เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขาดรายชื่อของแหล่งทุน The5ers เพราะนักเทรด Forex มืออาชีพที่มั่นใจในฝีมือและประสบการณ์ทั่วโลก แต่อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมจากสายเทรดในไทยซักเท่าไหร่ เพราะมีการทดสอบคัดคนแบบเข้มข้น เน้นหัวกะทิจนเหลือนักเทรดเพียง 5% จากทั่วโลกมาทำงานร่วมกับพวกเขาและนักลงทุนคนพิเศษ โดยมีโปรแกรมการสอบ 2 รูปแบบ ดังนี้

  • Low Risk : เน้นความเสี่ยงต่ำ การทดสอบและเป้าหมายไม่โหดมาก
  • Aggressive : เน้นความเสี่ยงเพิ่มขึ้น สนับสนุนการเก็บกำไรเข้ากระเป๋าสูง 12%

ค่าสมัครสอบ : เริ่มต้น €235 ไปจนถึง €745 (ราคาค่าสมัครสอบถือว่า แพง เมื่อเทียบกับวงเงินกองทุนที่จะได้รับและเปอร์เซ็นต์คอมมิชชั่นที่ต่ำกว่ารายอื่นกว่า 30-40%)

5) CTI

CTI หรือ CityTradersImperium ตอบโจทย์สำหรับนักเทรดมือใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง บริหารจัดการไม่ยุ่งยาก เงื่อนไขไม่มีปัญหา หากบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพแพลตฟอร์มนี้มีแผนรอบรับการแบ่งกำไรสูงถึง 100% เลยทีเดียว (แม้จะยังไม่ได้รับความนิยมในไทยอย่างแพร่หลาย ด้วยความที่เป็นรุ่นน้องจากแพลตฟอร์มอื่น แต่ก็มาแรงขึ้นเรื่อยๆ เตรียมติดสปีดแซงอีกหลายแห่งเลย) มีให้เลือก 3 โปรแกรม ดังนี้

  • Direct : ไม่มีการกำหนดระยะเวลาชัดเจน เป้าหมายกำไร 10% ขึ้นไป
  • Evaluation : มีการกำหนดระยะเวลาที่ประมาณ 12 เดือน มีการตั้งเป้าหมายกำไรที่ประมาณ 9% วงเงินให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ $ 10,000-70,000
  • Challenge : ไม่เพียงแต่คอมมิชชั่นยังได้โบนัสแบบเงินเดือนประจำเป็นจำนวนคงที่ต่อเดือน ให้ระยะเวลาต่อรอบที่ 1 จำนวน 45 วัน และรอบที่ 2 จำนวน 45 วัน

ค่าสมัครสอบ : เริ่มต้น $99 ไปจนถึง $4,399 (ไม่เน้นคัดเฉพาะคนเก่ง แต่สร้างสรรค์ให้เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาสนับสนุนให้นักเทรดพัฒนาฝีมือเก็บประสบการณ์ได้)