Parabolic SAR J Welles Wilder

วิธีใช้ Parabolic SAR เพื่อหาจุดเปลี่ยน

อัปเดตล่าสุด:
post view Post views: 4,499

Parabolic SAR เป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง ที่เป็นที่นิยม เพราะสามารถดูและเข้าใจได้โดยง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมาะกับตลาดที่เป็นเทรนด์ หรือมีแนวโน้ม ใช้บอกเทรนด์ ว่าเป็นอย่างไร มีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อไปอีกไหม บอกราคาถึงจุดสูงสุด หรือจุดต่ำสุด  รวมทั้งการพลิกกลับไปอีกฝั่งตรงข้าม

Parabolic SAR ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย Mr. J. Welles Wilder จากที่เขาได้เล็งเห็นถึงปัญหา ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค นั่นก็คือ ความล่าช้าของเวลา เพราะเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคชนิดต่าง ๆ มักจะเคลื่อนที่ตามหลังราคาหรือดัชนีตลอด แนวโน้มที่ได้จึงดูไม่น่าเชื่อถือ เพราะเกิดจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว

เขาจึงสร้างเครื่องมือเทคนิคตัวใหม่ที่เรียกว่า พารา-โบลิก (Para – bolic) โดยการเพิ่มความเร่งของสัญญาณแนวโน้มเข้าไป ในขณะที่ราคาสามารถทำยอดสูงใหม่ หรือต่ำใหม่ได้  โดยพิจารณาให้ความสำคัญไปที่ราคาและเวลาเป็นหลัก สัญญาณดังกล่าวนี้เรียกว่า Parabolic SAR ซึ่งคำว่า SAR นั้น ย่อมาจากคำว่า Stop and  Reversal ที่หมายถึง จุดเปลี่ยนแนวโน้มนั่นเอง

 

ประโยชน์และการนำมา Parabolic SAR ใช้งาน

  • บอกว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงไหน 
  • บอกการแกว่งตัวของราคาว่าเคลื่อนที่เร็วหรือช้า
  • บอกถึงความยาวของเทรนด์ และจุดกลับตัว
  • เป็นสัญญาณ ซื้อหรือขาย 

1.บอกว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงไหน โดยให้ดูจากจุดไข่ปลา (Parabolic SAR) ว่าอยู่บนหรือล่าง

  • ถ้าเกิดจุดไข่ปลาเป็นแถวด้านล่าง หมายถึงเป็นตลาดขาขึ้น  (Bull Market, กระทิง)
  • ถ้าเกิดจุดไข่ปลาเป็นแถวด้านบน หมายถึงเป็นตลาดขาลง (Bear Market, หมี)

Parabolic-SAR-Bull-Market-or-Bear-Market วิธีใช้ Parabolic SAR

2.บอกการแกว่งตัวของราคาว่าเคลื่อนที่เร็วหรือช้า

  • ถ้าจุดไข่ปลาอยู่ใก้ลกัน หมายถึงตลาด(ราคา) แกว่งตัวเคลื่อนที่ช้า
  • ถ้าจุดไข่ปลาอยู่ห่างกัน หมายถึงตลาด(ราคา) แกว่งตัวเคลื่อนที่เร็ว

Parabolic-SAR-Indicates-the-market-swing-fast-or-slow

3.บอกถึงความยาวของเทรนด์ และจุดกลับตัว ซึ่งดูได้จาก

  • ถ้าจุดไข่ปลาวิ่งเข้าหาใกล้แท่งเทียน = ตลาด(ราคา) มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยน (กลับตัว)
  • ถ้าจุดไข่ปลาวิ่งอยู่ห่างจากแท่งเทียน = ตลาด(ราคา) ยังคงมีแนวโน้มเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่าง

Parabolic SAR

4.เป็นสัญญาณซื้อหรือขายโดยแยกออกเป็นดังนี้

  • เป็นสัญญาณซื้อ เมื่อเกิดจุดที่ด้านล่างของกราฟ (แท่งเทียน) โดยยึดหลัก
  • เป็นสัญญาณขาย เมื่อเกิดจุดที่ด้านบนของกราฟ (แท่งเทียน) โดยยึดหลัก

 

4.1 เป็นสัญญาณซื้อ เมื่อเกิดจุดที่ด้านล่างของกราฟ (แท่งเทียน) โดยยึดหลัก

Buy เมื่อเกิดจุด (Parabolic SAR) แล้ว 3 จุด ที่อยู่ด้านล่างของกราฟแท่งเทียน

ปิดออเดอร์ Buy เมื่อเกิดจุด Parabolic SAR แล้ว 3 จุด ที่อยู่ด้านบนของกราฟแท่งเทียน

Parabolic-SAR-Indicates-for-sell-buy

4.2 เป็นสัญญาณขาย เมื่อเกิดจุดที่ด้านบนของกราฟ (แท่งเทียน) โดยยึดหลัก

Sell เมื่อเกิดจุด Parabolic SAR แล้ว 3 จุด ที่อยู่ด้านบนของกราฟแท่งเทียน

และปิดออเดอร์ Sell เมื่อเกิดจุด Parabolic SAR แล้ว 3 จุด ที่อยู่ด้านล่างของกราฟแท่งเทียน